แหวนทอง vs. แหวนทองคำขาว เลือกซื้อแหวนแบบไหนดี

ในปัจจุบันมีตัวเลือกแหวนมากมายให้คุณเลือกซื้อ ทั้งแหวนแต่งงานหรือแหวนหมั้นแบบใช้เรือน “แหวนทอง” และ “ทองคำขาว” จนคุณก็อาจเลือกไม่ถูกว่าแหวนแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด
ซึ่งตัวเลือกที่หลายคนคิดไม่ตกว่าจะซื้อแบบไหนดี ก็คือการเลือกซื้อระหว่าง “แหวนทอง” และ “ทองคำขาว” ซึ่งโดยหลักแล้วความแตกต่างจะอยู่ที่สี ความคงทน รวมไปถึงราคา ทีนี้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า แหวนแบบไหนดีกว่ากัน และแหวน 2 แบบนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกซื้อแบบไหน ในกรณีใด ในวันนี้เรามีคำตอบ
แหวนทองกับทองคำขาว แตกต่างกันอย่างไร?
หากคุณยังเป็นมือใหม่ในการเลือกซื้อแหวนประเภทต่างๆ ก็อาจจะสงสัยว่า แหวนทองคำขาวนี้มีค่า เท่ากับแหวนทองเลยหรือไม่ คำตอบก็คือใช่และอาจจะมีค่ามากกว่า
นั่นเป็นเพราะว่า การผลิตแหวนทองคำขาวก็จะใช้ทองมาผสมเข้ากับโลหะอื่นๆ ผลที่ได้จึงก่อเกิดเป็นแหวนที่มีสีออกนวลตา จากนั้นนำไปชุบโรเดียมเพื่อให้มีความแวววาวและกลายเป็นสีเงิน
ในขณะที่แหวนทองก็ไม่ได้เป็นแหวนที่ทำจากทองคำ 100% เช่นกัน แต่ต้องมีการนำเอาโลหะอื่นมาผสมเพื่อให้สามารถขึ้นรูปได้อย่างคงทน
ถ้าหากนำเอาทั้งแหวนทองและทองคำขาวมาเปรียบเทียบหน่วยกะรัตในการวัดเปอร์เซ็นต์ทองแล้ว แม้ว่าจะมีส่วนผสมโลหะที่แตกต่างกัน แต่ถ้าหากกะรัตเท่ากัน ก็แปลว่าแหวนทั้ง 2 ประเภทมีเปอร์เซ็นต์ทองคำที่เท่ากันครับ ซึ่งทำให้มูลค่าทองของแหวนไม่ได้แตกต่างกันแต่อย่างใด
ส่วนผสมที่แตกต่าง
สำหรับแหวนทองคำขาว จะใช้สังกะสีเป็นส่วนประกอบเสียมากเพื่อให้เนื้อโลหะดูมีความขาวนวลมากกว่าแหวนทองทั่วไป แต่แม้จะมีการผสมสังกะสีเข้าไป แหวนชนิดนี้ก็ยังคงมีสีออกเหลืองนวลๆ ทำให้ต้องนำไปชุบแร่โรเดียมให้ออกเป็นสีเงินวาวอีกทีหนึ่ง
และการที่แหวนประเภทนี้ใช้โรเดียมชุบนั้น จะยิ่งทำให้มีความคงทนเพิ่มมากขึ้น และปกป้องเนื้อทองที่อ่อนนิ่มข้างในเอาไว้ได้ดีขึ้น
โรเดียมนี่ล่ะที่ทำให้แหวนทองคำขาวมีราคาแพงกว่าแหวนทอง เพราะว่าแร่ชนิดนี้มีราคาแพง
ข้อควรระวังสำหรับแหวนทองคำขาว

สิ่งเดียวที่คุณควรระวังเมื่อซื้อแหวนทองคำขาวมาแล้วก็คือ การที่แร่โรเดียมที่ชุบไว้อาจหลุดลอกได้ตามกาลเวลา ซึ่งจะเผยให้เห็นเนื้อทองสีเหลืองนวลชัดขึ้น
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าแหวนทองคำขาวใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าที่โรเดียมจะหลุดลอก? นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณใส่แหวนบ่อยมากน้อยแค่ไหนครับ
แต่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปมากนัก เพราะแม้แหวนทองคำขาวสีจะหลุดลอกได้ แต่คุณก็สามารถดูแลแหวนทองคำขาวโดยนำเอาแหวนไปชุบโรเดียมใหม่ได้เรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งครับ
อ่านต่อ: วิธีทำความสะอาดแหวนเพชร ปลอดภัยที่สุด ใสกิ๊กง่ายๆทันที
ข้อควรระวังสำหรับแหวนทอง

แม้ว่าแหวนทองคำขาวจะไม่ได้ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ใช่ว่าแหวนทองจะไม่มีปัญหาเลย ข้อควรรู้เกี่ยวกับวัสดุโลหะก็คือ การที่แหวนทองมีทองคำเป็นส่วนประกอบซึ่งเป็นโลหะเบา ยิ่งมีกะรัตทองคำมาก ก็ทำให้มีโอกาสที่แหวนของคุณจะเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย
แต่เมื่อเป็นรอยแล้ว คุณก็อาจจะนำเอาแหวนไปขัดเงาเพื่อลบรอยขีดข่วนได้ แต่การทำเช่นนี้ก็จะทำให้เนื้อโลหะของแหวนถูกขัดออกไปด้วย
ซึ่งในส่วนนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับแหวนทองคำขาวที่ก็สามารถมีรอยขีดข่วนได้เช่นกัน แต่วิธีกำจัดรอยขีดข่วนออกไปกลับรักษาเนื้อทองได้มากกว่าจากการนำแหวนทั้งวงไปชุบโรเดียมนั่นเอง
นอกจากนี้ การเลือกแหวนทองที่ยิ่งมีกะรัตน้อย จะยิ่งมีความทนทานเพิ่มขึ้น แต่มูลค่าก็จะลดลง รวมถึงหากใครแพ้แร่นิกเกิ้ล แหวนทองกะรัตต่ำอาจจะไม่เหมาะกับคุณเช่นกันเพราะมีปริมาณนิกเกิ้ลมาก
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเมื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติ ลักษณะ และข้อควรระวังสำหรับแหวนทั้ง 2 ประเภทแล้ว จะเห็นได้ว่าทั้งคู่ก็มีข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยแหวนทองคำขาวจะเสียเรื่องการหลุดลอกของโรเดียม และ แหวนทองมีข้อเสียเรื่องรอยขีดข่วน ทำให้เมื่อมาถึงการตัดสินใจเลือกว่าจะซื้อแหวนแบบไหนดี ก็ควรดูที่ สีของแหวน สีของเพชร และสไตล์เป็นหลัก
ควรเลือกซื้อแหวนทองเมื่อ..
ถ้าหากคุณเลือกซื้อเพชรที่มีสีไม่ใสมากนัก เช่น เพชรน้ำต่ำกว่า 90 ให้คุณเลือกซื้อแหวนทองมาเป็นตัวเรือนแหวนจะเหมาะมากกว่า เพราะเพชรที่มีน้ำออกสีนวลๆจะเข้ากันกับตัวเรือนทองมากกว่าตัวเรือนทองคำขาว
นอกจากนี้ ถ้าหากคุณเป็นคนผิวสองสีหรือผิวเหลือง การใส่แหวนทองจะช่วยขับผิวและเหมาะกับสีผิวแบบนี้มากกว่าด้วย
ควรเลือกซื้อแหวนทองคำขาวเมื่อ..
ในทางกลับกัน ถ้าเพชรของคุณเป็นเพชรเกรดใส เช่น เพชรน้ำ 100 ถึง 95 เพราะตัวเรือนแหวนทองคำขาวดูจะเหมาะกับเพชรเกรดนี้ เพราะด้วยสีของตัวเรือนที่เป็นสีเงินออกขาว ทำให้เข้ากับสีเพชรที่เป็นสีใสได้ดี
ถ้าหากคุณเป็นคนผิวขาวก็ถือว่าโชคดีหน่อย เพราะไม่ว่าจะใส่แหวนทองหรือแหวนทองคำขาว ก็เข้ากับสีผิวคุณได้หมดครับ
สรุป สีและสไตล์ คือองค์ประกอบสำคัญ
ทั้งแหวนทองคำและทองคำขาวล้วนมีคุณสมบัติเด่นและด้อยแตกต่างกันไป แต่ด้วยการที่ทั้งสองมีแร่ทองคำผสมในเปอร์เซ็นต์ที่เท่ากันอยู่แล้วหากมีจำนวนกะรัตเท่ากัน ทำให้แหวนทั้ง 2 แบบมีค่าไม่น้อยหน้ากันเลย
คุณอาจเลือกแบบแหวนโดยดูจากพฤติกรรมการใช้ของคุณว่าต้องการการดูแลรักษาแบบไหนที่เราสะดวก หรือจะดูจากความเข้ากันได้ระหว่างตัวเรือนแหวนกับเพชรและสีผิวของคุณก็ได้