ความเชื่อเรื่อง แหวนนพเก้า มีประวัติยาวนานหลายร้อยปี นิยมสวมใส่ด้วยความเชื่อว่าจะช่วยเรียกทรัพย์ให้กับผู้สวมใส่ ให้มีความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์เสมอ
แหวนนพเก้า ตัวเรือนทองคำ ที่ผู้ใหญ่มักจะนิยมสวมใส่นั้นเป็น “แหวนพิรอดนพเก้า” แหวนตัวเรือนเป็นทองคำ ประดับด้วยอัญมณีมงคล 9 ชนิด ประกอบด้วย เพชร และพลอยสำคัญอีก 8 ชนิด ได้แก่ ทับทิม มรกต บุษราคัม ไพลิน (นิลกาฬ) โกเมน มุกดาหาร เพทาย และ ไพฑูรย์ (ตาแมว) โดยมีความเชื่อว่า นพเก้าจะนำมาซึ่งอำนาจพิเศษที่จะนำสิริมงคลมาสู่ตัวผู้สวมใส่
ความเชื่อเรื่องอัญมณี
จะเห็นได้ว่ามนุษย์เราไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด หรือประเทศไหนทั่วโลก ทั้งประเทศในแถบตะวันตก ตะวันออก หรือแม้แต่ในอารยธรรมกรีก และอียิปต์โบราณ รวมถึงในประเทศไทยเราเอง ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อในพลังของอัญมณีด้วยกันทั้งสิ้น
ในอดีตแต่ครั้งโบราณกาลมนุษย์เรานั้นรู้จักการนำอัญมณีมาใช้ประดับตกแต่งร่างกายเพื่อความสวยงาม ทั้งยังนิยมนำมาทำเป็นเครื่องรางของขลัง จากความเชื่อที่ว่าอัญมณีชนิดต่างๆ มีคุณสมบัติในทางมงคล สามารถปกป้องคุ้มครองภัยและนำพาความสุขสวัสดี มีโชคดีมาสู่ผู้สวมใส่
นพเก้า ที่สุดแห่งอัญมณีเสริมมงคล
สำหรับในประเทศไทยนั้นคาดว่าความเชื่อในพลังของอัญมณีได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอินเดีย โดยอัญมณีซึ่งจัดว่าเป็นสิริมงคลสูงสุดในบรรดาอัญมณีทั้งปวงในตำราความเชื่อของไทยนั้นมีอยู่ด้วยกัน 9 ชนิด ซึ่งรู้จักกันในนามของ ‘นพเก้า’ หรือ ‘นพรัตน์’ โดยเชื่อถือว่าอัญมณีแต่ละชนิดเป็นสัญลักษณ์แทนดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ดวงในระบบสุริยะ ซึ่งมีเทพดูแล มีคุณ สมบัติในทางสิริมงคล ป้องกันภยันตรายต่างๆ หากผู้ใดมีไว้ในครอบครองก็เท่ากับมีมงคลไว้ติดตัวจะเจริญรุ่งเรือง (สมัยก่อนนับดาวพลูโตเป็นสมาชิกระบบสุริยะ)
โดยมีความหมายอันเป็นมงคล ดังนี้
นอกจากนี้คำว่า “นพรัตน์” นั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของชื่อกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทยในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งพระราชทานนามโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) โดยทรงเปรียบให้กรุงเทพเป็นดั่งเมืองสวรรค์ เป็นเมืองหลวงที่บริบูรณ์ไปด้วยแก้วเก้าประการ
กรุงเทพมหานคร มีชื่อเต็มว่า กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์
จากหลักฐานตามความเชื่อเรื่องนพเก้า หรือ นพรัตน์ ที่เชื่อว่านพเก้านั้นเป็นของสูง ในสมัยอยุธยาอัญมณีทั้ง 9 นี้มีไว้เฉพาะสำหรับพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้น จึงได้มีการนำนพเก้ามาทำเครื่องประดับสำหรับประดับยศตำแหน่งของกษัตริย์และขุนนางชั้นสูง เช่น สังวาลนพรัตน์ แหวนนพรัตน์
ต่อมาในรัชสมัยของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ได้กำหนดให้นำนพเก้ามาประดับตกแต่งบนเรือนแหวนเรียกว่า แหวนนพเก้า สำหรับพระราชทานให้แก่พระราชวงศ์ รวมถึงเพื่อปูนบำเหน็จให้แก่ขุนนาง ข้าราชการ และบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่แผ่นดิน ในพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้กำหนดเรื่องแหวนนพรัตน์ ในจดหมายกำหนดว่าด้วยเครื่องประดับสำหรับยศในสยามให้มีการสร้างแหวนทองคำประดับด้วย พลอยทั้ง 9 ชนิด ไว้สำหรับพระราชทานให้แก่ พระบรมวงศานุวงศ์และขุนนางผู้ใหญ่
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างดวงตรามหานพรัตน์สำหรับห้อยสายสะพายขึ้นเป็นครั้งแรกของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย รวมทั้งให้สร้างแหวนนพรัตน์เพิ่มเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราช วราภรณ์ สำหรับพระราชทานให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์และขุนนางชั้นผู้ใหญ่
“แหวนนพเก้า” หรือ แหวนนพรัตน์ จึงถือเป็นแหวนสูงค่าที่รู้จักกันดีมานานนับร้อยปี ตามความเชื่อที่ว่า อัญมณีแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในทางมงคล ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ และขจัดความไม่เป็นมงคลทั้งหลายให้สิ้นไปได้ หากผู้ใดมีไว้ในครอบครอง ก็เท่ากับมีมงคลไว้ติดตัว ทำสิ่งใดย่อมมี ความสำเร็จ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการรวบรวมความงดงาม ความเชื่อ และความศรัทธา เกี่ยวกับนพรัตน์เข้าไว้ด้วยกัน ด้วยเหตุนี้แหวนนพเก้าจึงมีทั้งความงามและคุณค่าในตัวเอง โดยแทบไม่ต้องปรุงแต่ง
ปัจจุบันเครื่องประดับตกแต่งด้วยนพเก้าโดยเฉพาะแหวนนพเก้า เป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไปทั้งชายและหญิง โดยเชื่อกันผู้ที่มีนพเก้าไว้ในครอบครองก็เท่ากับมีมงคลติดตัวด้วยเหตุที่ว่าอัญมณีทั้ง 9 ชนิดนี้ มีคุณสมบัติในทางมงคลที่แตกต่างกัน
แหวนนพเก้า ที่สุดแห่งโชคชะตา
แม้ว่ามณีนพเก้าจะนำพาความเป็นสิริมงคลมาสู่ผู้ครอบครอง แต่การจะหวังพึ่งพาพลังของอัญมณีแต่เพียงอย่างเดียวก็ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าใดนัก เนื่องจากสิ่งต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็นผลมาจากกรรม หรือการกระทำของแต่ละบุคคลด้วยกันทั้งสิ้น มนุษย์เรานั้นหากประพฤติดี ก่อกรรมดี ก็ย่อมส่งผลดีอันจะนำมาซึ่งความสุขกายสบายใจ แต่หากก่อกรรมชั่วแล้วไซร้ ก็ย่อมส่งผลลัพธ์ในทิศทางที่กลับกัน ดั่งคำพระท่านว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” นี่คือสัจธรรม
ขอบคุณข้อมูลจาก Abovediamond